รฟท. ชี้แจงกรณีการเวนคืนพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินบริเวณหมู่บ้านประชาสุข 6 จ.ฉะเชิงเทรา ยันจ่ายเงินเวนคืน 100% เฉลี่ย 3–4 ล้านบาทต่อคน โดยให้เวลาย้ายออก 10 เดือน

กรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าไปรื้อถอนอาคารบ้านเรือนบริเวณหมู่บ้านประชาสุข 6 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเวนคืนสร้างรางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา-ดอนเมือง ระยะทาง 166 กิโลเมตร มีการออกแบบให้มีพื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่อยู่ในเขตรถไฟเดิม เพื่อลดผลกระทบการเวนคืนที่ดินต่อประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณพื้นที่โดยรอบ

อย่างไรก็ตาม รฟท. มีเหตุจำเป็นในการประกาศพระราชกฤษฎีกา โดย รฟท. ทำการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมทั้งหมด 11 จุด ระยะทาง 35 เมตร เนื้อที่ 919 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 403 หลัง ซึ่งปัจจุบัน ได้ทำการรื้อถอนตามสัญญาเวนคืนแล้ว 395 หลัง ยังเหลืออาคารของประชาชน และบริษัทนิติบุคคล ที่ยังไม่รื้อถอนที่อยู่ในหมู่บ้านประชาสุข 6 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา 8 หลัง

รฟท.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่กำหนดราคาอสังหา ริมทรัพย์เบื้องต้น และเงินค่าทดแทนเพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา 19 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2562

โดยมีนายอำเภอเมืองฉะเชิงเทราเป็นประธานกรรมการ ร่วมกันพิจารณาราคาค่าที่ดิน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเหมาะสม พร้อมกับคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และความพึงพอใจของประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ทำให้ประชาชนเจ้าของที่พักอาศัย และบริษัทนิติบุคคล บริเวณหมู่บ้านประชาสุข 6 จ.ฉะเชิงเทรา ได้ตกลง และยินยอมเข้ามาทำสัญญารับเงินค่าที่ดินส่วนที่ถูกเวนคืน ซึ่งเป็นการรับเงินค่าที่ดินซื้อทั้งแปลงไม่ใช่ซื้อแค่บางส่วน รวมทั้งค่าทดแทนเพิ่มเติมกรณีมีการพัฒนาพื้นที่ไปแล้วทุกราย 100%

รับเงินค่าทดแทนโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง ค่าทำสัญญา ค่าทดแทนไม้ยืนต้นและพืชผล เงินเพิ่มร้อยละ 2 โดยทั้งหมดได้รับเงินไปแล้ว 75% ตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ใช้วิธีคำนวณหลักเกณฑ์การถอดแบบก่อสร้าง ราคาค่าวัสดุ ครุภัณฑ์ต่างๆ ค่าแรงในการก่อสร้างตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ ค่าแรงในการก่อสร้าง คำนวณจากมาตรฐานของกรมบัญชีกลาง

รฟท.ยืนยันว่า การเข้ารื้อถอนอาคารดังกล่าว เป็นการเข้ารื้อถอนทรัพย์สิน ของรฟท.เองโดยชอบธรรม และก่อนที่จะเข้ามาทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก ได้มีการแจ้งติดใบประกาศภายในหมู่บ้านมาก่อนหน้านี้ ตามความในมาตรา 39 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2562

นอกจากนี้ หากนับเวลาตั้งแต่วันที่มีการชำระเงินค่าเวนคืนให้กับชาวบ้าน และบริษัทนิติบุคคล รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้างให้เป็นของการรถไฟฯ เรียบร้อยแล้ว รฟท.ให้เวลาในการรื้อย้ายเกือบ 10 เดือน

ที่มา thaipbs

 

ติดตามอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่  olivepeak.com