ศึกน้ำลายยังไม่ยุติ! จีนยัวะยื่นประท้วงเกาหลีใต้ หลังประธานาธิบดีโสมขาวบอกว่าเรื่องไต้หวันเป็น ‘ปัญหาของโลก’

สงครามน้ำลายระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ สืบเนื่องจากประธานาธิบดีโสมขาวพูดแสดงความเห็นในประเด็นปัญหาไต้หวันยังคงไม่มีทีท่าเลิกรา โดยคราวนี้รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซุน เว่ยตง ยื่นประท้วงอย่างขึงขังต่อเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ในเรื่องคำพูดที่ “ผิดพลาด” ของประมุขโสมขาว ทั้งนี้ ตามคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันอาทิตย์ (23 เม.ย.)

ระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษแก่สำนักข่าวรอยเตอร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดียุน ซุกยอล ของเกาหลีใต้กล่าวว่า ความตึงเครียดรอบๆ ไต้หวันที่เพิ่มทวีขึ้นมาก็เนื่องจากมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมโดยใช้กำลัง และเขาคัดค้านการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเช่นนี้
“ประเด็นปัญหาไต้หวันไม่ได้เป็นเพียงประเด็นปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวันเท่านั้น แต่เหมือนกับประเด็นปัญหาเกาหลีเหนือ มันเป็นประเด็นปัญหาระดับโลก” ยุนบอก

คำพูดเช่นนี้ของประธานาธิบดียุน เป็นสิ่งที่ “ไม่สามารถยอมรับได้โดยสิ้นเชิง” ซุนกล่าว ทั้งนี้ ตามคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนที่ออกมาในวันอาทิตย์ (23)

“ผู้นำเกาหลีใต้ท่านนี้ไม่ได้อ้างอิงถึงหลักการจีนเดียวเลย แต่นำเอาประเด็นไต้หวันมาตีค่าเสมอเท่าเทียมกันกับประเด็นปัญหาคาบสมุทรเกาหลี” ซุนกล่าวต่อ

“ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างก็เป็นรัฐอธิปไตยซึ่งได้เข้าร่วมสหประชาชาติ มันจึงเป็นข้อเท็จจริงซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประเด็นปัญหาคาบสมุทรเกาหลี กับประเด็นปัญหาไต้หวันนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสมบูรณ์แบบทั้งในแง่รูปร่างลักษณะ และในแง่ของแนวตั้งและแนวนอน และไม่สามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย”

จีนยืนยันว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ซึ่งมีสายสัมพันธ์ทางการทูตกับตนต้องยอมรับจุดยืนที่ว่าไต้หวันเป็นดินแดนของจีน โดยที่เกาหลีใต้หรือแม้กระทั่งสหรัฐฯ ก็ได้ยอมรับเรื่องนี้ในตอนเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับปักกิ่ง

ก่อนหน้านี้ ระหว่างการแถลงข่าวประจำวันตามปกติในวันพฤหัสบดี (20) ที่ผ่านมา เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับความเห็นของประธานาธิบดียุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง เหวินปิน ได้ตอบโดยยืนยันว่า เรื่องไต้หวันนั้น “เป็นเรื่องของชาวจีน ผู้ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอกว่าควรต้องทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร”

“ความตึงเครียดในระยะไม่กี่ปีหลังๆ มานี้ในช่องแคบไต้หวัน โดยพื้นฐานแล้วมีสาเหตุมาจากพวกแบ่งแยกดินแดนซึ่ง ‘ต้องการให้ไต้หวันเป็นเอกราช’” เขากล่าวต่อ พร้อมกับรบเร้าเกาหลีใต้ให้ “จัดการกับเรื่องซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาไต้หวันด้วยความสุขุมคัมภีรภาพ”

ปรากฏว่าในวันเดียวกันนั้น (20) ทางด้านเกาหลีใต้ได้แสดงปฏิกิริยาไม่พอใจ โดย ชาง โฮจิน รองรัฐมนตรีต่างประเทศคนที่หนึ่งของเกาหลีใต้ ได้เรียกเอกอัครราชทูต ซิง ไห่หมิง ของจีนมาพบเพื่อร้องเรียนเรื่อง “ความไม่สุภาพทางการทูต” ของฝ่ายปักกิ่ง นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ยังได้แถลงประณามการตอบคำถามของโฆษกหวัง เหวินปินว่า เป็นคำแถลงที่ไม่สมควรพูดออกมา ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเรื่องบูรณภาพแห่งชาติของจีน พร้อมกับย้ำว่า ยุนเพียงแต่ย้ำจุดยืนของเกาหลีใต้ “ที่ว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนสถานะเดิม (ของไต้หวัน) โดยใช้กำลัง”

อย่างไรก็ดี ในวันศุกร์ (21) หวังได้ออกมาแถลงอีกว่า จีนก็ได้ “ยื่นประท้วงอย่างจริงจัง” ต่อเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำปักกิ่ง เกี่ยวกับการวิวาททางการทูตที่เกิดขึ้น โดยระบุถึง “การให้ความเห็นอย่างผิดพลาด (ของฝ่ายเกาหลีใต้) ต่อปัญหาไต้หวัน” ทั้งนี้ ไม่เป็นที่ชัดเจนว่านี่คือครั้งเดียวกันกับการประท้วงของรองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ตามข่าวในวันอาทิตย์ (23) หรือไม่

ขณะเดียวกน โฆษกหวัง ยังเรียกร้องอีกครั้งในวันศุกร์ ให้เกาหลีใต้ยอมรับอธิปไตยของจีนเหนือเกาะไต้หวัน พร้อมกับกล่าวแสดงความหวังว่า ประเทศทั้งสองจะสามารถ “ธำรงรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่หนักแน่นมั่นคงและเติบโตขยายตัวอย่างสม่ำเสมอเอาไว้”

(ที่มา : รอยเตอร์, อาร์ที)

ติดตามเรื่องราวรอบโลกได้ที่ olivepeak.com